การเริ่มต้นหางานของ อาชีพ โปรแกรมเมอร์ จบใหม่ นั้นสำหรับผู้เพิ่งเริ่มต้นนั้นอาจเป็นเรื่องยากซักหน่อยเพราะมองไปแต่ที่ไหนก็มีแต่คนประกาศรับ Senior Developer หรือ Senior โปรแกรมเมอร์ และต้องการคนที่มีประสบการณ์มากๆ ทั้งนั้น ดังนั้น อาชีพ โปรแกรมเมอร์ จบใหม่ และ developer จบใหม่ ที่เริ่มเดินทางสายนี้จะทำอย่างไรดีหละให้เรามีโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์มากขึ้นดีล่ะ
ในบทความนี้เราเลยจะมากล่าวถึง คำแนะนำที่ผู้เริ่มต้นทุกคนสามารถทำได้เพื่อเพิ่มโอกาสการ หางาน อาชีพ โปรแกรมเมอร์ และ หางานในสายงาน Developer โดย คำแนะนำที่ว่านี้จะโฟกัสไปที่เรื่อง Resume, Project ตัวอย่าง และ Sample Code เนื่องจากผมทำงานเป็น Mobile developer ซึ่งงานจะเป็น Front end ซะส่วนใหญ่ เลยจะของยกตัวอย่างทางด้าน Front end development ประกอบด้วย แต่คิดว่าสามารถนำไปประยุกต์ไม่ว่าจะเป็น Developer สายไหนก็ตาม
โดยต้องขอกล่าวไว้ก่อนว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กร หรือ บริษัทที่ผู้เขียนกำลังทำงานอยู่แต่อย่างใด
3 คำแนะนำการหางานใน อาชีพ โปรแกรมเมอร์
1. Resume ในการสมัครงาน อาชีพ โปรแกรมเมอร์

- Resume นั้นควรจะดูดีและอ่านง่าย การทำงานในอาชีพ โปรแกรมเมอร์นั้น โดยเฉพาะงานด้าน Front End หรือ Mobile Developer นั้นเราควรจะแสดงให้ผู้อ่าน Resume เห็นถึงความสามารถที่จะสื่อสารข้อมูลให้ผู้อื่นเข้าใจง่ายได้ ถ้าเปรียบ Resume เหมือนเป็น Website หรือ Application ก็คงไม่มีใครอยากจะใช้ ถ้ามันเข้าใจยากหรือใช้งานยาก สมัยนี้การทำ Resume ที่ดูดีและอ่านง่ายไม่ใช่เรื่องยากเลยแค่เราใช้ Template จาก Words หรือ Pages โดยส่วนตัวผมจะชอบ template ที่มี 2 column โดย column ด้านซ้ายคือข้อมูลที่คุณอยาก hi-light หรือให้ความสำคัญมากกว่าส่วนอื่น และ พยายามอย่าให้ Resume ยาวเกินไปถ้าจะใส่ประสบการณ์งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาย Software ก็ให้เลือกมาใส่ใน Resume เพียงอันเดียวเพื่อแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ทำงานในบริษัท
- ใส่ LinkedIn, GitHub, Stack Overflow profile link ลงไปใน Resume ด้วยก็ดีโดยทำให้ชื่อของเรานั้นเหมือนกันหมดทุก Platform และเขียน Job Title เป็น ชื่องานของเรา เช่น “Android Developer”, “Mobile Software Engineer” ควรหลีกเลี่ยงการตั้งว่า “Seeking for position” หรือ “กำลังหางาน” ใน Title ของ profile ใน Platform เหล่านี้เพราะมันควรจะบอกถึงสิ่งที่เราเป็นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ

2. สร้าง Project ตัวอย่าง
ในการ หางานในสาย อาชีพ โปรแกรมเมอร์ นั้นควรคำนึงว่าสิ่งสำคัญที่สุดของงานด้าน Software คือการแสดงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างผลงานออกมาได้ โดยการที่เรามี Project ตัวอย่างส่งไปให้ผู้ที่จะคัดเลือกเราดูนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าเราสามารถทำงานที่เราสมัครให้สำเร็จได้จริงๆ Project ตัวอย่างที่ว่านี้ไม่จำเป็นต้องงาน Freelance หรืองานของบริษัทที่เราเคยทำเพราะอาจติดเรื่องสัญญาห้ามเปิดเผย แต่ Project ตัวอย่างนี้สามารถเป็นผลงานง่ายๆที่เราทำเองและสามารถนำ Source code มาเปิดเผยได้
- Mobile Developer ก็ควรเอา App ของเราของ App Store หรือ Play Store ไว้
- Web Developer ควรมีงาน Deploy ไว้ที่ URL ที่สามารถเข้าถึงผ่าน Web browser ได้
- Backend Developer อาจเขียน API พร้อมกับ Document ที่อ่านง่ายเตรียมไว้
ไม่จำเป็นต้องสร้าง Product ที่มี Idea เลิศหรู
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหน้าที่สำคัญของ Project ตัวอย่างที่เราจะส่งให้ผู้คัดเลือกดูนั้น คือการแสดงถึงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างผลงานได้สำเร็จลุล่วงได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลากับการคิดจากสร้าง App หรือ Website อะไรให้มันแปลกใหม่มากนักเพราะเราไม่ได้จะเริ่มต้นทำธุรกิจ เราแค่ควรสร้างผลงานง่ายๆที่บ่งบอกถึงความสามารถของเรา อาจเป็น Application ที่ต่อกับ Open source api เพื่อแสดงค่าฝุ่น หรือจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid 19 ก็ได้
ทำให้เนี๊ยบ
ถ้าเป็นงานด้าน Front-end เราก็ควรทำ design ออกมาให้ดูดีประมานนึงโดยดูตัวจาก material design ที่ทาง Google แนะนำมาก็ดี สำหรับ Application ก็ทำให้มั่นใจว่าเรา รองรับหน้าจอทั้งเล็กและใหญ่ส่วน Website ก็ควรเป็น Responsive
ทีนี้เรามาพูดถึงเรื่องโค้ดกันบ้าง
3. ใส่ใจเรื่องคุณภาพของ โค้ด
มันจะเป็นการดีมากถ้าเราเอาโค้ดของ โปรเจคตัวอย่างเราอัพขึ้นไปที่ Github repository ส่วนตัวและใส่ README.md ไว้ด้วย (ยกเว้นพวก API key และข้อมูล sensitive อย่าอัพขึ้น public repo เชียวนะ) นี่จะทำให้เราดูมีภาษีขึ้นมากขึ้นโดยเกี่ยวกับโค้ดก็จะมีคำแนะนำเล็กน้อย การมีโปรเจคอยู่ Github ของเรานั้นจะทำให้ Github Profile ของเราดูดีมากขึ้น นี่คือ Github Profile ของผู้เขียน
- ควรใช้ Design Pattern อย่าง Design pattern ที่ผมเคยใช้มาก็จะเป็น MVC, MVVM, MVP เราควรเลือกใช้อย่างใด อย่างหนึ่งใน Project ของเรา เพราะ Design pattern เหล่านี้จะทำให้โค้ดของเรามีระเบียบและสามารถ บำรุงรักษาได้ง่ายในระยะยาว ซึ่งก็แล้วแต่บริษัทว่าจะเลือกใช้ Pattern แบบไหนกัน
- เราต้องเข้าใจโค้ดทุกส่วนที่ใส่ลงไปในโปรเจค เป็นเรื่องปกติที่เราจะ copy โค้ดจาก website เช่น Stack Overflow มาใช้ใน Project ของเราแต่ที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจสิ่งที่เรานำมาใส่ในงานของเราด้วย
- ควรเขียนโค้ดและ Format ตาม style guide อย่าคิด Style guide ขึ้นมาเองถ้าเราหาข้อมูลภาษาที่เราเขียนอยู่จะเจอ style guide ได้ไม่ยากเช่น ผมจะอ้างอิง Style Guide ของภาษา Kotlin จากที่นี่ https://github.com/raywenderlich/kotlin-style-guide
- Localization: ทำให้ Sample project ของเรารองรับหลายภาษา โดยมีการรองรับ ภาษาไทย กับ ภาษาอังกฤษ
- Testing: ใน Project ของเราควรมีการเขียน Unit test หรือ UI test ซักหน่อย ไม่จำเป็นต้องเขียนในห้ครอบคลุม 100% แต่แสดงให้เห็นว่าเราเข้าใจ Concept ของการเขียนก็เพียงพอ
- Git: แสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้ git ได้ และอย่าลืมใส่ .gitignore file ลงไปใน Project ด้วย
เพิ่มเติมจากประสบการณ์ตรงซักเล็กน้อย บางครั้งถ้าเราอยากทำงานในบริษัทใดๆบริษัทหนึ่งแต่ตำแหน่งที่เปิดรับมีคุณสมบัติสูงเกินความสามารถเรา เราสามารถพูดคุยเพื่อต่อรองขอสัมภาษณ์เพื่อฝึกงานก่อนซักช่วงหนึ่งก็ได้ และถ้าผลงานของเราดีและเป็นที่ยอมรับของในทีมโอกาสที่จะได้ทำงานต่อเป็นพนักงานประจำก็จะสูงขึ้น แต่การทำแบบนี้อาจไม่เหมาะสำหรับองค์กรใหญ่ที่ต้องผ่านการคัดกรองหลายขั้นตอน จะเหมาะกับ Start up หรือบริษัทขนาดเล็กมากกว่า ทั้งนี้จะเป็นโปรแกรมเมอร์แล้วยังไม่มีโน๊ตบุ๊คคู่ใจก็สามารถลองอ่านบทความแนะโน๊ตบุ๊คเพื่อเป็นแนวทางได้
รวมถึงทางเราได้มีการพัฒนา Application เพื่อช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิพร้อมสุขภาพที่แข็งแรงสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา
10 คีย์บอร์ด โน๊ตบุ๊ค ยกระดับประสบการณ์การทำงานดั่งมืออาชีพ
คุณเบื่อกับการพิมพ์ คีย์บอร์ด โน๊ตบุ๊ค ที่แคบและอึดอัดหรือไม่? คุณพบว่าตัวเองพิมพ์ผิดบ่อยหรือมีปัญหาในการพิมพ์อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหรือไม่? ถ้าใช่ ก็ถึงเวลาพิจารณาการลงทุนซื้อคีย์บอร์ดเพิ่มเติมสำหรับโน๊ตบุ๊คของคุณ ต่อไปนี้เป็นข้อดีที่มาพร้อมกับการเพิ่มแป้นพิมพ์พิเศษให้กับโน๊ตบุ๊คของคุณ การทำงานโดยมี คีย์บอร์ด...
Read More7 จอ โน๊ตบุ๊ค ยอดเยี่ยม ทำงานก็ดีเล่นเกมส์ก็ได้
คุณเบื่อที่ต้องสลับไปมาระหว่างหน้าต่างและโปรแกรมต่างๆบนโน๊ตบุ๊คของคุณ? และคุณมีปัญหาในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเล่นเกม ดูหนัง หรือทำงานต่างๆหรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาพิจารณาการลงทุนซื้อ จอ โน๊ตบุ๊ค เพิ่มกันแล้วล่ะ...
Read More8 รุ่น โน๊ตบุ๊คทํางาน – เขียนโปรแกรม รุ่นใหม่ ปี 2023
บทความนี้เรามาแนะนำโน๊ตบุ๊คทํางาน หรือ เขียนโปรแกรมกัน ในปี 2023 นี้เรียกได้ว่าต้องใช้โน๊ตบุ๊คทำงานแทบทุกอย่าง เรียกว่าแทบทุกอาชีพในสายงาน Office ในโลกยุคปัจจุบันจะขาดอุปกรณ์อย่างโน๊ตบุ๊คไปไม่ได้เลย หากจะบอกว่าสำคัญยิ่งกว่า...
Read Moreเมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 ? 5 เมาส์ไร้สาย ถนอมข้อมือ
เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี? 5 รายการ เมาส์ถนอมข้อมือ เวลาจะเลือกซื้อเมาส์ หลายๆคนคงมีคำถามว่า เราควรจะใช้ เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี...
Read More